โดยมี สิทธิภาพ เมืองคุ้ม ปลัดเมืองพัทยาเป็นประธานในพิธีเปิด ไฮไลต์ในงานคือการรวบรวมช่างสักชื่อดังจากทั่วโลกมาเปิดบูธโชว์ศิลปวัฒนธรรม ของแต่ละชาติ และวิธีการสักตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการแสดงโขนชาววังจากกรมศิลปากร
บรรยากาศภายในงานค่อนข้างคึกคัก มีบูธต่างๆ ประมาณ 70 บูธจากหลากหลายประเทศ เพื่อโชว์ถึงลวดลายการสักของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นลายสักไทย ลายมังกร หรือแม้แต่ลายรูปปั้นหรือเทพเจ้าต่างๆ ของศาสนาพราหมณ์ และฮินดู ซึ่งดึงดูดทั้งผู้สนใจในการสัก รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ
“ศิลปะของเส้นสายลายไทยสู่รอยสักศิลปะบนเรือนร่าง” คือแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ มีการนำโขนมาเป็นตัวแทนศิลปวัฒนธรรมไทย เพื่อสื่อสารถึงเรื่องราวศิลปะรอยสัก โดยมีวัตถุประสงค์ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางด้านศิลปวัฒนธรรมระหว่างช่างสัก และผู้ชื่นชอบศิลปะรอยสักทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ศิลปะแต่ละชาติ พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานให้กับวงการสักไทยเป็นที่ยอมรับสู่นานาชาติ
ยุทธพงษ์ ทิพย์ดี ผู้เข้าร่วมงานกล่าวว่า วัฒนธรรมการสักของแต่ละชาติมีความแตกต่างกัน และหาชมได้ยาก ไม่ว่าการสักแบบญี่ปุ่นโบราณ หรือการสักลายไทย ซึ่งคนที่สามารถสักลายไทยให้กับคนอื่นได้ ต้องมีฝีมือระดับสุดยอดจริงๆ เพราะลายไทยเป็นลายที่ทำได้ยาก ลวดลายสวยงาม คนที่สามารถสักได้จึงมีน้อย
"ศิลปะเกี่ยวกับการสัก ต้องใช้ฝีมือและความอดทน ที่สำคัญคนที่จะสักต้องมีใจรัก เพราะรอยสักจะอยู่กับเราไปอีกนาน"
ปัจจุบันวัฒนธรรมการสักในเมืองไทยเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มดาราหรือนักร้องหันมาให้ความสนใจและสักมากขึ้น ทำให้สังคมเริ่มมองว่าการสักเป็นเรื่องปกติทั่วไป
อาเล็ก อินเดียน เจ้าของร้าน Indian Tattoo กล่าวว่า การจัดงานที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จมาก เพราะคนในวงการสักมาร่วมงานจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นช่างสักชาวไทย ชาวญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และชาติอื่นๆ รวมถึงร้านขายอุปกรณ์การสัก ถือได้ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการสักอย่างแท้จริง
คนที่สักจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สักเพราะใจรัก และอีกกลุ่มสักตามแฟชั่น อาเล็ก บอกว่า บางคนอาจมองว่า กลุ่มที่สักตามแฟชั่นเป็นพวกดารา นักร้อง สักเพราะอยากเท่ สักแล้วดูดีก็เลยอยากสักบ้าง
"สำหรับผมมองว่า กลุ่มที่สักตามแฟชั่นก็ต้องมีใจรักเหมือนกัน เพราะเขาก็รู้ว่าถ้าสักแล้วรอยสักจะอยู่กับเราตลอดไป จะเอาออกไม่ได้ง่ายๆ ถ้าจะลบออกก็เสียค่าใช้จ่ายสูง จำเป็นต้องคิดดีๆ ไม่ใช่สักตามอารมณ์เพียงอย่างเดียว" เจ้าของร้าน Indian Tattoo กล่าว
เป็นอีกความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเล็กๆ ที่ไม่อาจมองข้าม
จาก http://www.artgazine.com/shoutouts/viewtopic.php?t=2965
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น